อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง จำเป็นต้องรู้อะไรบ้างก่อนซื้อกรมธรรม์ฉบับแรกในชีวิต

ทำประกันชีวิตให้ตัวเอง

อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง

มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับมากมาย ไม่ว่าจะช่วยความลดเสี่ยงในด้านการเงิน การออม หรือการลงทุน ประกันชีวิตนั้นตอบโจทย์เป็นอย่างมาก อีกทั้งเรายังเชื่อว่าในปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากกำลังสนใจที่จะทำประกันชีวิตให้กับตนเอง และทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้ Meprakan มีคำตอบมาฝาก

ข้อดีของการทำประกันชีวิตให้ตัวเอง มีอะไรบ้าง

  • มีกรมธรรม์ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ เป็นหนึ่งช่องทางที่ช่วยสร้างเครดิตให้กับตนเองในกรณีที่ต้องการกู้ยืมเงิน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือในการเดินทางไปยุโรปได้ สำหรับการขอวีซ่าเชงเก้น
  • ประกันชีวิตให้ความคุ้มครองสำรองใช้ยามฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุจำเป็น เช่น สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล เบิกค่าสินไหมทดแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จำเป็นต้องเลือกประกันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเองด้วยเช่นกัน
  • สามารถทำประกันชีวิตเพ่อเป็นมรดกให้กับลูกหลาน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน คนข้างหลังก็จะได้มีเงินเอาไว้ใช้ หากมีประกันอย่างน้อยก็จะมีเงินก้อนเอาไว้ใช้ หรือใช้เป็นทุนการศึกษาสำหรับลูกหลานได้
อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง ต้องรู้อะไรบ้าง

อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง ต้องรู้อะไรบ้าง

1.ความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน

ในทุก ๆ ครั้งที่ทำประกันชีวิต แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก็คือความจำเป็นในทางการเงิน ว่าสามารถชำระเบี้ยประกันตามจำนวนที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์อย่างสม่ำเสมอได้หรือไม่ ซึ่งต้องคำนึงถึงด้วยว่าจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวหรือชีวิตประจำวันหรือไม่

2.ต้องรู้รายละเอียด เงื่อนไขประกันชีวิตที่ทำ

สำหรับข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย เพราะในการทำประกันชีวิตจำเป็นต้องรู้ข้อมูล รายละเอียด และเงื่อนไขของประกันชีวิตแต่ละแผน อีกทั้งข้อนี้ยังเป็นข้อที่หลาย ๆ ไม่ให้ความสนใจและมักถูกมองข้ามอยู่บ่อย ๆ ฉะนั้นแล้วคุณจำเป็นต้องทราบรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาเอาประกัน ดอกเบี้ยผลตอบแทน เงื่อนไขคุ้มครอง สิทธิที่ได้รับ ฯลฯ

คลิกอ่านเพิ่มเติม : เลือกทำ ประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงคุ้มค่าที่สุด แต่ละแบบเหมาะกับใครบ้าง

3.ต้องรู้ความต้องการของตนเอง

หากอยากจะทำประกันชีวิต สิ่งที่คุณต้องรู้เป็นอย่างแรก คือ ความต้องการของตนเอง ว่าต้องการประกันชีวิตแบบไหน เช่น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตตลอดชีพ ประกันชีวิตควบการลงทุน ฯลฯ ซึ่งคุณควรจะเลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองมากที่สุด เพื่อที่จะรับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อตนเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกัน Unit Linked

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

ข้อดี – ข้อเสียประกันชีวิตแต่ละแบบ ที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

1.ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

ข้อดี

เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองที่ยาวนาน เหมาะสำหรับคนที่อยากจะทำเอาไว้เพื่อเป็นหลักประกันให้กับคนครอบครัวหรือลูกหลาน โดยประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะมีค่าเบี้ยประกันต่ำเมื่อเทียบกับทุนประกันชีวิต

ข้อเสีย

สำหรับข้อเสียของประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะมีผลตอบแทนที่ไม่สูงมาก แต่มักไม่ได้เงินคืน เป็นประกันที่ไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากทำประกันเอาไว้เพื่อลงทุนหรือคนที่จะนำมาเปลี่ยนเป็นเงินสดเมื่อฉุกเฉิน

การเลือกซื้อ

ควรจะมีการคำนวณทุนประกันชีวิต โดยดูจากภาระทางการเงินของตนเองว่ามีหนี้สินหรือไม่ พร้อมกับคำนวณความต้องการพื้นฐาน หรือมีการตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะมีสินทรัพย์เอาไว้ใช้ในอนาคตหรือให้ลูกหลานเท่าไหร่

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

2.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)

ข้อดี

สำหรับข้อดีของประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือ การฝึกวินัยในการออมเงิน เนื่องจากการทำประกันชีวิตจะต้องมีการจ่ายค่าเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเอาเงินไว้ใช้ในยามเกษียณอายุ

ข้อเสีย

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ มักจะมีราคาเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเท่ากัน ดังนั้นหากต้องการทำประกันแบบสะสมทรัพย์ก็อย่าลืมที่จะพิจารณาความต้องการของตนเองก่อนด้วยเช่นกัน

การเลือกซื้อ

เพราะประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่ต้องใช้ความมีวินัยในการจ่ายค่าเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอ จึงควรเลือกซื้อประกันแบบสะสมทรัพย์ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันไม่เกิน 10% ของเงินเดือน

ประกันชีวิตแบบบำนาญ

3.ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity Insurance)

ข้อดี

ประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็เหมือนกับแหล่งรายได้หลังจากที่เกษียณอายุ ที่ได้รับเพิ่มเติมจากประกันสังสมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นอกจากนี้ประกันชีวิตแบบบำนาญก็ยังได้รับสิทธิในการนำไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้

ข้อเสีย

ประกันชีวิตแบบบำนาญจะมีข้อเสียอยู่ คือ มีเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทที่ค่อนข้างสูง เมื่อต้องการเงินก่อนเวลาที่กำหนดหรือระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ก็จะทำให้ได้รับเงินที่น้อยกว่าที่จ่ายไป

การเลือกซื้อ

สำหรับการเลือกซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ ควรจะมีการคำนวณว่าต้องการเกษียณอายุแล้วต้องการเงินเดือนละเท่าไหร่ อีกทั้งการทำประกันชีวิตแบบบำนาญสิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ การเปรียบเทียบของแต่ละบริษัทว่ามีทุนประกันที่เท่าไหร่

คลิกอ่านเพิ่มเติม : เบี้ยประกันชีวิตแบบบํานาญ คืออะไร ลดหย่อนภาษีได้ไหม เหมาะกับใครบ้าง ?

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน

4.ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Link)

ข้อดี

เป็นประเภทประกันที่มีโอกาสในการได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าประกันประเภทอื่น ๆ มีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากมีการกำหนดเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย ทุนประกัน เวลาในการจ่าย และระยะเวลาในการคุ้มครองได้เอง โดยใช้หลักการเดียวกับกองทุนรวม

ข้อเสีย

เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง ไม่เห็นตัวเลขของผลตอบแทนที่แน่นอนเหมือนกันกับประกันแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ก็ยังเป็นประกันที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ

การเลือกซื้อ

แนะนำให้เลือกซื้อหลังจากมีประกันที่เป็นเงินออมที่มีความมั่นคงแล้ว เนื่องจากเป็นประกันที่มีความเสี่ยงในการลงทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอาจแบ่งโควตาสำหรับเงินออม 15-20% ของเงินเดือน

สำหรับใครที่กำลังวางแผนการใช้เงินในอนาคต การทำประกันเอาไว้ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ไม่น้อย เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองในตอนนี้แล้ว ก็ยังทำให้เรามีเงินออมหรือเงินก้อนเอาไว้ใช้ตอนจำเป็นด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใครที่อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง ก็จำเป็นที่ต้องพิจารณารายได้ของตนเองด้วยว่าเหมาะสำหรับประกันที่อยากจะซื้อหรือไม่

แหล่งอ้างอิงข้อมูล