สิ่งที่ต้องเปรียบเทียบเมื่อซื้อประกันสะสมทรัพย์ มีอะไรบ้าง ก่อนซื้อจำเป็นต้องอ่าน

การเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ก่อนตัดสินใจทำประกัน ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นและต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะการทำประกันสะสมจะมีระยะเวลาการชำระค่าเบี้ยประกันหลายปี ไม่ใช่ว่าจ่ายไปแค่ปีสองปีแล้วจะหยุดชำระได้ ทำให้ผู้ที่สนใจทำประกันต้องหาข้อมูล ทำการเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ ว่าแผนความคุ้มครองของบริษัทประกันเจ้าไหนตอบโจทย์แนวทางการใช้ชีวิตของเรามากที่สุด

ในบทความนี้ Meprakan จะสรุปแนวทางการเลือกเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ให้ได้อ่านกัน พร้อมทั้งเปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์จาก KT AXA แต่ละแผนที่คิดว่ามีความน่าสนใจ เผื่อว่าจะเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันสะสมทรัพย์ดี ๆ สักแผนความคุ้มครอง

ซื้อประกันสะสมทรัพย์เปรียบเทียบอะไรบ้าง

1.เปรียบเทียบความมั่นคงของบริษัทประกันภัย

การเลือกเปรียบเทียบบริษัทประกันก่อนตัดสินใจถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากที่จะต้องเลือกเปรียบเทียบแผนประกันสะสมทรัพย์แล้ว คุณก็ควรเปรียบเทียบบริษัทประกันด้วยเช่นกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็จะมีเรื่องของความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงทางการเงิน เช็คดูรีวิวจากคนที่มีประสบการณ์การทำประกันผ่านแหล่ง Social ต่าง ๆ เช่น Pantip, Facebook, Webboard ฯลฯ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทประกันที่เรากำลังสนใจจะสามารถดูแลเงินออมสะสมของเราได้

2.เปรียบเทียบระยะเวลาการจ่ายเงินประกัน

ด้วยความที่ประกันสะสมทรัพย์ถูกออกแบบมาให้มีระยะเวลาการชำระค่าเบี้ยประกันหลายปี ซึ่งคุณควรสังเกตตัวเลขในแผนความคุ้มครองให้ดี เช่น 14/5 หมายถึง ชำระค่าเบี้ยประกัน 5 ปี แต่จะได้รับความคุ้มครอง 14 ปี หากครบกำหนด 14 ปีก็จะได้รับเงินออมสะสมทรัพย์พร้อมผลประโยชน์คืน

ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวของแต่ละบริษัทประกันจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองของบริษัทประกันเจ้านั้น ๆ ฉะนั้นแล้วถ้าต้องการทำประกันสะสมทรัพย์ ก็ควรต้องเปรียบเทียบระยะเวลาการจ่ายเบี้ยประกันด้วย ว่าระยะเวลาการชำระแบบไหน ถึงจะเหมาะกับเรามากที่สุด

3.เปรียบเทียบแผนความคุ้มครองให้ตรงกับไลฟ์สไตล์

ทุกวันนี้มีบริษัทประกันต่าง ๆ ที่ออกแผนความคุ้มครองประกันสะสมทรัพย์มาสู้กันในตลาดอย่างดุเดือด ซึ่งผู้เอาประกันอย่างเราก็ควรเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ตรงกับแนวทางการใช้ชีวิตเสมอ ค่อย ๆ เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ของแต่ละเจ้าไป ไม่ต้องรีบร้อนทำ เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด

4.เปรียบเทียบความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าประกันสะสมทรัพย์จะมีระยะเวลาการชำระเบี้ยให้เลือกหลายแบบ ผู้เอาประกันควรเลือกแผนประกันตามระยะเวลาที่คุณสามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วน และได้รับผลประโยชน์คืนอย่างต่อเนื่อง

เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ กรุงไทย-แอกซ่า

แผนประกันสะสมทรัพย์จากกรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ที่น่าสนใจจะมีอยู่ 3 แผนด้วยกัน ดังนี้

1.ประกันสะสมทรัพย์ LifePlus+ Saver

แผนประกันสะสมทรัพย์ LifePlus+ Saver เป็นแผนความคุ้มครองที่ออกแบบมาสำหรับวัยเริ่มทำงาน ผู้เอาประกันสามารถเลือกระยะเวลาชำระเบี้ยประกันได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นชำระเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง 20 ปี หรือชำระเบี้ย 15 ปี คุ้มครอง 25 ปี เมื่อครบกำหนดจะได้รับค่าเบี้ยประกันภัยคืนทั้งหมดพร้อมผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย พร้อมโอกาสที่จะได้รับเงินปันผลคืนตั้งแต่สิ้นปีที่ 4 เป็นต้นไป

2.ประกันสะสมทรัพย์ Life Super Save 14/5

แผนประกันสะสมทรัพย์ Life Super Save 14/5 เป็นแผนประกันสะสมทรัพย์ระยะสั้น ที่ออกแบบมาให้คุณจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลา 5 ปี ให้ความคุ้มครอง 14 ปี เหมาะกับคนที่ต้องการชำระค่าเบี้ยประกันระยะสั้น รับเงินจ่ายคืนตั้งแต่ปีแรก สูงสุดปีละ 10% ครบกำหนดสัญญารับเงินก้อนโตสูงถึง 548%

3.ประกันสะสมทรัพย์ อัลติเมท โกรท (ชนิดมีเงินปันผล)

แผนประกันสะสมทรัพย์ อัลติเมท โกรท เป็นแผนความคุ้มครองที่มีเงินปันผลให้กับผู้เอาประกันภัย ออกแบบแผนความคุ้มครองนี้มาเพื่อให้คุณออมเงินอย่างมีแบบแผน การันตรีเงินที่จ่ายคืน พร้อมเพิ่มโอกาสที่จะได้รับเงินปันผลไปในตัว ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันมีให้เลือก 3 แบบ คือ ชำระเบี้ย 10 ปี 15 ปี และ 25 ปี

ก่อนตัดสินใจทำประกันสะสมทรัพย์กับบริษัทไหนก็ตาม ผู้เอาประกันควรเปรียบเทียบแผนความคุ้มครองให้ดี ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ และความสามารถในการชำระเบี้ยประกันเสมอ เพื่อให้ผู้เอาประกันอย่างเรา ๆ ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่า และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนครบถ้วนมากที่สุด

สุดท้ายนี้หากไม่แน่ใจว่าควรเปรียบเทียบแผนความคุ้มครองประกันสะสมทรัพย์แบบนี้ดี สามารถเข้ามาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตัวแทนประกันชีวิต Krungthai-Axa ได้แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม