สิ่งที่ต้องระวัง เมื่ออยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ มีอะไรบ้าง ก่อนซื้อประกันให้ต้องรู้

อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่

ปัจจุบันมีคนกลุ่มคนจำนวนมากที่อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ เพราะเมื่อมีอายุมากขึ้นโอกาสที่จะเกิดการเจ็บป่วยหรือมีโรคประจำตัวก็มีมากขึ้น การทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้ อีกทั้งการทำประกันชีวิตให้กับผู้สูงอายุหรือให้กับพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะซับซ้อนชวนปวดหัวแถมยังยุ่งยากด้วยเช่นกัน  และนั้นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนเกิดอาการสับสนจนทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ง่าย ๆ

ทำไมใคร ๆ ก็อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่

1.การทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่นั้น เมื่อเกิดการเจ็บป่วยหรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจำนวนไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดงานศพ หรือหนี้ที่พ่อแม่ได้สร้างไว้ คนที่ต้องรับผิดชอบต่อก็คืนเราเอง หากทำประกันชีวิตก็จะช่วยทำให้เรามีเงินก้อนเอามาใช้หมุนเวียนในยามที่ท่านไม่อยู่บนโลกแล้ว

2.เราสามารถเลือกความคุ้มครองของประกันชีวิตที่เหมาะสมกับพ่อแม่ได้ ว่าต้องการประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในเรื่องไหน พ่อแม่บ้างคนมีความเสี่ยงในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทาง การทำงาน หรือเรื่องโรคร้ายแรงต่าง ๆ

3.เป็นการบริหารและวางแผนทางการเงินที่ดี เพราะในอนาคตเราไม่รู้เลยว่าพ่อแม่มีโอกาสป่วยเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ หากไม่มีการทำประกันชีวิตไว้ แน่นอนว่าผลที่ตามมาก็คือค่าใช้จ่ายในการรักษาที่เรียกได้ว่ามหาศาล ทำให้ไม่ต้องดึงเงินเก็บออกมาใช้ และไม่ต้องไปยืมใครมาให้เป็นหนี้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : อยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง จำเป็นต้องรู้อะไรบ้างก่อนซื้อกรมธรรม์ฉบับแรกในชีวิต

อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง

1.ช่วงอายุของพ่อแม่ที่สามารถทำประกันชีวิตได้

สำหรับการทำประกันชีวิตของพ่อแม่นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นประกันชีวิตผู้สูงอายุที่จะมีการกำหนดไว้ว่าต้องมีอายุตั้งแต่ 50-70 ปี จึงจะสามารถทำได้ และประกันจะให้ความคุ้มครองยาวนานจนถึงอายุ 80-90 ปี (หรือขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัท) และสำหรับประกันชีวิตที่ทำได้ทั้งแต่มีอายุไม่ถึง 50 ปี หรือหลังจากอายุ 70 ปี ประกันนั้น ๆ ถือว่าเป็นประกันชีวิตแบบทั่วไป

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ทำประกันชีวิตให้พ่อแม่ แบบไหนดีที่สุด ถึงจะคุ้มค่าและตอบโจทย์กับคนที่คุณรัก

2.เปรียบเทียบวงเงินเอาประกันกับค่าเบี้ยประกันชีวิตจ่ายไหว

สำหรับวงเงินเอาประกัน คือ เงินที่บริษัทประกันชีวิตจะจ่ายให้กับผู้เอาประกันหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่ถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ โดยวงเงินเอาประกันนั้นก็จะสอดคล้องกับเบี้ยประกันที่จ่ายให้กับบริษัท เมื่อมีการเลือกจ่ายเบี้ยประกันชีวิตที่แพงก็จะทำให้ได้รับความคุ้มครองและวงเงินเอาประกันที่สูงมากขึ้น

3.การเลือกแบบประกันชีวิตให้ตรงตามเป้าหมายที่ต้องการ

ในปัจจุบันนี้ประกันชีวิตสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 2 ประเภทหลัก ๆ ก็คือ ประกันชีวิตแบบเน้นให้ความคุ้มครอง และ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีความแตกต่างกัน เพราะประกันชีวิตแบบเน้นให้ความคุ้มครองนั้นจะจ่ายเงินให้กับผู้ได้รับผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตกรณีเดียวเท่านั้น ส่วนประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จะแบ่งเงินปันผลคืนตามสัญญาที่ได้กำหนดเอาไว้ เช่น 5 ปี 10 ปี เมื่อมีอายุรอดจนครบสัญญาก็จะได้รับเงินคืน หากเสียชีวิตก็จะเป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลาน

4.ประกันชีวิตผู้สูงอายุ มีระยะรอคอย

สำหรับหลายคนที่อยากจะทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่ มักจะมองข้ามระยะเวลารอคอยในการทำประกันชีวิตผู้สูงอายุ ซึ่งระยะรอคอยประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นมักถูกกำหนดเอาไว้ประมาณ 1-2 ปี นับตั้งแต่วันที่กรมธรรม์ให้การอนุมัติ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย)

5.เงื่อนไขการจ่ายเงินของประกันชีวิต

สำหรับเงื่อนไขในการจ่ายเงินของประกันชีวิตผู้สูงอายุ จะทำการจ่ายเงินให้กับผู้ได้รับผลประโยชน์ก็ต่อเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตกรณีเดียวเท่านั้น หากเสียชีวิตภายใน 2 ปี ตั้งแต่วันที่อนุมัติบริษัทประกันชีวิตก็จะจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดเอาไว้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี ประโยชน์ของประกันชีวิต มีอะไรบ้าง บอกเลยว่ามีดีกว่าที่คุณคิด !

6.การตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขแนบท้าย

เนื่องจากประกันชีวิตผู้สูงอายุของแต่ละบริษัทที่ความแตกต่างกัน ทำให้มีเงื่อนไขและรายละเอียดในเอกสารแบนท้ายต่างกันด้วย ทำให้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบให้ครบถ้วน เพราะจะได้ทราบว่าได้รับความคุ้มครองมากน้อยแค่ไหน รวมถึงมีเงื่อนไขอะไรในการรับสิทธิประโยชน์บ้าง

7.ประกันชีวิตผู้สูงอายุ ไม่ใช่ประกันสุขภาพ

หลาย ๆ คนในปัจจุบันนี้มักจะเข้าใจผิดกันว่าประกันชีวิตผู้สูงอายุเหมือนกับประกันสุขภาพ

ซึ่งต้องบอกเลยไม่ใช่ เพราะประกันชีวิตผู้สูงอายุถูกออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้ว ซึ่งบางครั้งคุณสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นประกันสุขภาพได้ แต่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันแต่ละเจ้า

การทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่ก็เป็นเหมือนกับการแสดงความรัก ความห่วงใย รูปแบบหนึ่ง ที่นอกจากจะช่วยบริหารความเสี่ยงทางด้านการเงินแล้ว ก็ยังเป็นการฝึกวินัยในการเก็บเงินของตนเองด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่ก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะมีอิสระทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดีในบั้นปลายชีวิตด

สำหรับใครที่กำลังคิดอยากทำประกันชีวิตให้กับพ่อแม่ ก็อย่าลืมที่จะพิจารณาเลือกซื้อประกันชีวิตกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ คุ้มค่ากับค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ต้องจ่าย และต้องเลือกประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

• https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/life/family-insurance/7-things-consider-before-buying-elderly-insurance