ประกันชีวิตมีกี่แบบ กี่ชนิด แต่ละแบบเหมาะกับใครบ้าง ก่อนซื้อประกันต้องทำความรู้จักให้ดี !

ประกันชีวิตมีกี่แบบ กี่ชนิด

ปัจจุบันมีรูปแบบการทำประกันชีวิตให้เลือกหลายแบบมาก ๆ ซึ่งประกันชีวิตแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้ Meprakan จะมาสรุปให้ได้อ่านกันว่าประกันชีวิตมีกี่แบบ กี่ชนิด ประกันชีวิตแต่ละแบบให้ความคุ้มครองลักษณะแบบไหนบ้าง หากใครที่ลังเลว่าจะทำประกันชีวิตรูปแบบไหนดีถึงจะได้ความคุ้มครองคุ้มค่าที่สุด อ่านบทความนี้จบรับรองได้คำตอบอย่างแน่นอน

Contents hide
1 ประกันชีวิตมีกี่แบบ

ประกันชีวิตมีกี่แบบ

รูปแบบชนิดประกันชีวิตจะแบ่งออกเป็น 5 แบบ ดังนี้

1.ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คือ ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองแบบมีระยะเวลาจำกัด เช่น จะให้ความคุ้มครองแบบ 1 ปี 5 ปี 10 ปี 20 ปี ฯลฯ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาจะเป็นประกันชีวิตระยะสั้น ให้ความคุ้มครองจากการเสียชีวิตเท่านั้น  

ซึ่งบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ ที่ได้ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันได้เสียชีวิตภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ถ้าผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่โดยพ้นกำหนดระยะเวลาแล้ว แบบนี้.. จะไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัย เพราะถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดลงแล้ว

ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เหมาะกับใคร

  • บุคคลที่เป็นเสาหลักของครอบครัว
  • บุคคลที่มีหนี้สินสูง และต้องการทำประกันชีวิตด้วยทุนประกันที่สูง
  • บุคคลที่ต้องการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในราคาต่ำ

ข้อดีประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา 

  • ค่าเบี้ยประกันชีวิตมีราคาถูก
  • ทุนเอาประกันภัยสูง

ข้อจำกัดประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา 

  • หากผู้เอาประกันอยู่ครบสัญญากรมธรรม์ จะไม่ได้รับผลตอบแทน
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)

2.ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ คือ ประกันชีวิตที่ให้เราจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามช่วงเวลาที่ได้กำหนดเอาไว้ แต่จะได้รับความคุ้มครองไปตลอดชีวิต โดยจะให้ความคุ้มครองจนถึงอายุ 90-99 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย

หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา ก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนตามจำนวนทุนประกันภัย แต่หากเสียชีวิตในช่วงที่มีความความคุ้มครอง ผู้รับผลประโยชน์จะได้เงินตามจำนวนทุนประกันภัยไปแทน 

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะมีค่าเบี้ยประกันภัยสูงกว่าประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา มีมูลค่าเงินสดอยู่ในกรมธรรม์ หากส่งเบี้ยประกันมาสักระยะหนึ่งจะสามารถกู้เงินจากกรมธรรม์หรือเวนคืนกรมธรรม์ภัยได้

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เหมาะกับใคร

  • บุคคลที่เป็นหัวหน้าครอบครัว
  • บุคคลที่ต้องการความคุ้มครองประกันชีวิตระยะยาว

ข้อดีประกันชีวิตแบบตลอดชีพ 

  • จ่ายเบี้ยประกันภัยระยะสั้น ได้ความคุ้มครองตลอดชีวิต
  • สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมได้ เช่น ประกันโรคร้ายแรง หรือ ประกันสุขภาพ

ข้อจำกัดประกันชีวิตแบบตลอดชีพ 

  • ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามจำนวนระยะเวลาที่ระบุเอาไว้

คลิกอ่านเพิ่มเติม : ประกันโรคร้ายแรง คืออะไร ควรทำหรือไม่ ให้ความคุ้มครองโรคอะไรบ้าง

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)

3.ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ คือ ประกันชีวิตที่ผสมผสานกับการออมทรัพย์ โดยผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองชีวิตและมีเงินออมทรัพย์ไปในตัว ซึ่งบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันมีชีวิตครบตามที่กำหนดสัญญา หรือหากผู้เอาประกันเสียชีวิตลง ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินส่วนนี้แทน

โดยการจ่ายผลตอบแทนจะรวมทั้งเงินทุนประกัน เงินคืนรายงวด รวมถึงเงินปันผล ซึ่งจะมีการจ่ายในรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยที่ได้ระบุเอาไว้ในสัญญากรมธรรม์ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เหมาะมาก ๆ สำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการออมเงินเพื่อในอนาคต

ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เหมาะกับใครบ้าง

  • บุคคลที่ต้องการเงินออมสะสมในอนาคต

ข้อดีประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน
  • สามารถออมเงินผ่านประกันสะสมทรัพย์ เพื่อใช้ในการเกษียณได้
  • ในขณะที่ออมเงินจะได้รับความคุ้มครองชีวิตด้วย

ข้อจำกัดประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  • ต้องส่งค่าเบี้ยประกันให้ครบตามที่กำหนดเอาไว้ในสัญญากรมธรรม์
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance)

4.ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuities Insurance)

ประกันชีวิตแบบบำนาญ คือ ประกันชีวิตที่จะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้เอาประกันภัยหลังจากเกษียณอายุแล้ว โดยประกันชีวิตแบบบำนาญจะมีรูปแบบการจ่ายผลประโยชน์ที่เท่ากันเป็นประกันทุกเดือนหรือทุกปีให้กับผู้เอาประกันที่เกษียณอายุแล้ว (อายุประมาณ 55-60)

ประกันชีวิตแบบบำนาญ เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณอายุ

ข้อดีประกันชีวิตแบบบำนาญ

  • ได้รับเงินบำนาญเท่ากันทุกเดือน ทุกปี
  • มีเงินใช้หลังเกษียณอายุ

ข้อจำกัดประกันชีวิตแบบบำนาญ

  • จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันชีวิบแบบบำนาญตามรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
  • ได้ความคุ้มครองชีวิตน้อย เพราะเน้นเรื่องการจ่ายเงินบำนาญเป็นหลัก
ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuities Insurance)

5.ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked Insurance)

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน หรือ Unit Linked คือ ประกันชีวิตที่มาพร้อมกับการลงทุนในกองทุนรวม ผู้เอาประกันสามารถบริหารความเสี่ยง จัดการเลือกแผนความคุ้มครองให้เหมาะกับ Life Style ตัวเองได้ หากผู้เอาประกันมีความรู้เรื่องการลงทุนในกองทุนรวม ก็มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

แม้ว่าประกันชีวิตแบบควบการลงทุนจะมีการลงทุนในกองทุนรวมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่บริษัทประกันภัยทุกเจ้าก็ไม่สามารถการันตรีผลตอบแทนจากการลงทุนได้ ซึ่งนี่ถือเป็นความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันภัยต้องยอมรับและทำความเข้าใจ

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในด้านการลงทุน
  • บุคคลที่ยอมรับความเสี่ยงได้
  • บุคคลที่ต้องการสะสมความมั่งคั่ง

ข้อดีประกันชีวิตแบบควบการลงทุน

  • เลือกแผนประกันให้เหมาะกับความต้องการได้
  • มีผู้บริหารมืออาชีพมาช่วยดูแลจัดการเรื่องกองทุนรวม

ข้อจำกัดประกันชีวิตแบบควบการลงทุน

  • ไม่สามารถการันตรีผลตอบแทนจากการลงทุนได้
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked Insurance)

จะเห็นได้ว่าประกันชีวิตแต่ละชนิด แต่ละประเภท จะมีรูปแบบความคุ้มครองที่เด่นและแตกต่างกันไป สำหรับผู้ที่สนใจทำประกันชีวิต เราแนะนำว่าให้ลองสำรวจความต้องการของคุณดูว่าอยากทำประกันชีวิตให้ตัวเอง หรือ อยากทำประกันชีวิตให้พ่อแม่เพื่ออะไรกัน เช่น คุ้มครองชีวิต ให้พ่อแม่หรือตัวเราเองมีเงินบำนาญใช้ ฯลฯ เพราะจะได้เลือกประเภทประกันชีวิตให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้มากที่สุด

1 thoughts on “ประกันชีวิตมีกี่แบบ กี่ชนิด แต่ละแบบเหมาะกับใครบ้าง ก่อนซื้อประกันต้องทำความรู้จักให้ดี !

  1. Pingback: ประกันชีวิตตลอดชีพ คืออะไร มีวิธีเลือกเปรียบเทียบอย่างไรให้คุ้มค่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *