ประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2+ และประกันชั้น 2 ธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้มค่าที่สุด

ด้วยความที่ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 และประกันชั้น 2+ อาจจะมีความคุ้มครองใกล้เคียงกัน ทำให้คนที่สนใจจะทำประกันรถยนต์เลือกไม่ได้ว่าควรทำประกันรถแบบไหนดีถึงจะเหมาะและคุ้มค่ามากที่สุด ดังนั้นบทความนี้ Meprakan จึงจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์ให้มากขึ้นว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงแนะนำการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ว่าควรเลือกทำประกันแบบไหนดีที่คุ้มค่าที่สุด

ประกันชั้น 1 กับ 2 ต่างกันอย่างไร

สำหรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แน่นอนว่าหลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นประกันภัยที่ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งจะคุ้มครองในเรื่องของความเสียหายต่อตัวรถยนต์ในทุก ๆ กรณี ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ถูกไฟไหม้หรือรถยนต์เกิดการสูญหาย

นอกจากนี้ก็ยังครอบคลุมไปถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัยของบุคคลภายนอกด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมเป็นอย่างมากที่สุด และมีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ที่แพงที่สุดเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน

ส่วนการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 นั้นจะมีความแตกต่างในเรื่องของความคุ้มครองตัวรถยนต์ของผู้ทำประกัน โดยบริษัทประกันจะไม่มีการจ่ายค่าเสียหายชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ทำประกันต้องจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ด้วยตนเอง เช่น รถเฉี่ยว ชน รั่วบ้าน เสาไฟฟ้า ต้นไม้ แต่จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ในกรณีรถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้ และครอบคลุมในกรณีก่อการร้ายด้วยเช่นกันนั่นเอง

คลิกอ่านเพิ่มเติม : สรุปมาแล้ว 14 เหตุการณ์ หากเกิดเหตุ ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง ก่อนซื้อประกันต้องอ่าน !

ประกันชั้น 1 กับ ประกันชั้น 2 พลัส ต่างกันอย่างไร

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน ทางบริษัทประกันจะเป็นผู้ชดเชยค่าเสียหายตามวงเงินที่ได้กำหนดไว้ในกรมธรรม์ นอกจากนี้การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ยังได้รับการคุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนที่ไร้คู่กรณี เช่น การขับรถยนต์ชนกับฟุตบาทจนเป็นรอย การถอยรถยนต์ชนกับต้นไม้ รถโดนขูดหรือถูกกรีดรอบคัน รวมถึงการขับรถยนต์เสียหลักชนเข้ากับเสาไฟฟ้า

ในส่วนของการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองรถยนต์ของตนเองและคู่กรณีในกรณีรถยนต์ชนกันเท่านั้น หากไม่มีคู่กรณีบริษัทจะไม่จ่ายค่าเสียหายชดเชยให้ นอกจากนี้ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ก็ยังครอบคลุมกรณีรถยนต์ถูกโจรกรรมหรือไฟไหม้ด้วยเช่นกัน ส่วนความคุ้มครองเกี่ยวกับน้ำท่วมจะให้ความคุ้มครองเป็นบางแผนประกันภัยเท่านั้น หากต้องการความคุ้มครองน้ำท่วมเพิ่มเติม จำเป็นต้องสอบถามข้อมูลกับบริษัทประกันภัยเสียก่อน

คลิกอ่านความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ประเภทต่าง ๆ

• ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง
• ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง
• ประกันชั้น 2 พลัส คุ้มครองอะไรบ้าง
• ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง
• ประกันชั้น 3 พลัส คุ้มครองอะไรบ้าง

ควรเลือกทำประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 2 ธรรมดา แบบไหนคุ้มค่าที่สุด

เนื่องจากในยุคนี้การทำประกันภัยรถยนต์มีให้หลากหลายประเภท แน่นอนว่าอาจทำให้หลายคนไม่รู้จะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้นไหนดีที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งต้องบอกเลยว่าการทำประกันภัยรถยนต์นั้นจะต้องดูความเหมาะสมและประเภทของรถยนต์ที่ใช้งาน หากเป็นรถยนต์ที่ออกใหม่ ไร้ซึ่งประสบการณ์ในการขับขี่รถยนต์ หรือมีการใช้งานรถยนต์ที่ค่อนข้างหนัก การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมากเพราะมีการคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด

แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ใช้งานรถยนต์บ่อยมากนัก มีพื้นที่ในการจอดรถยนต์ที่ค่อนข้างเสี่ยง เช่น จอดรถยนต์ไว้บริเวณหน้าบ้านหรือผู้ที่อาศัยอยู่ตึกแถว ผู้ที่ต้องจอดรถยนต์เอาไว้ริมถนน หรือผู้ที่ต้องจอดรถยนต์เอาไว้ในพื้นที่สาธารณะเป็นประจำ เช่น ผู้ที่มีอาชีพค้าขาย การทำประกันภัยชั้น 2 หรือ 2+ ก็คงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากกว่า

เพราะการทำประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ 2+ นั้นจะมีอัตราในการจ่ายค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แถมยังช่วยทำให้คุณรู้สึกอุ่นมากขึ้นกว่าเดิม หากเกิดความเสียหายขึ้นกับรถยนต์ ทางบริษัทประกันก็จะเป็นผู้เข้ามาดำเนินการต่างๆให้ รวมถึงมีการชดเชยจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ทำประกันภัยหรือคู่กรณีด้วย เรียกได้ว่าการทำประกันภัยรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดเลย

เพราะการทำประกันภัยรถยนต์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องพิจารณาเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ตอบโจทย์การใช้งานรถยนต์มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มีความครอบคลุมมากที่สุด แต่ก็มีราคาค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายแพงที่สุดด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นคนที่สามารถขับขี่รถยนต์ได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว ก็อาจเลือกการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ก็ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อทำประกันภัยรถยนต์แล้วการขับขี่รถยนต์ก็ไม่ควรประมาท ควรขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวังและมีสติอยู่เสมอ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว คนที่คุณรักและเพื่อร่วมเส้นทางขับขี่ และนอกจากนี้เราก็หวังว่าคนที่กำลังพิจารณาเลือกทำประกันภัยรถยนต์อยู่ จะสามารถเลือกทำประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ตอบโจทย์มากที่สุดได้